หุ้นยั่งยืน (THAILAND SUSTAINABILITY INVESTMENT: THSI)

การลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investment)

ความมั่งคั่งเป็นหนึ่งในความต้องการของทุก ๆ คน อย่างไรก็ตาม คงไม่มีใครต้องการความมั่งคั่งแบบฉาบฉวย แต่ต้องการความมั่งคั่งที่มีความมั่นคง ดังนั้น การลงทุนที่ยั่งยืนจึงเป็นกลยุทธ์และแนวทางการลงทุนของโลกยุคใหม่ที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนมืออาชีพและผู้คนทั่วโลกในปัจจุบัน โดยกลยุทธ์การลงทุนที่ยั่งยืนนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแต่การลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานดีและมีแนวโน้มที่เติบโตเท่านั้น แต่ยังต้องนำประเด็นผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทมาพิจารณาร่วมด้วยอย่างรอบด้าน เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่าเงินลงทุนนั้นจะสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว

การลงทุนอย่างยั่งยืนคืออะไร?

การลงทุนอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Investment คือ แนวคิดการลงทุนที่คำนึงถึงการดำเนินงาน โอกาส และความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ของธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของธุรกิจ เนื่องจากการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ในทุกวันนี้มักได้รับผลกระทบจากปัญหาและปัจจัยด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม การลงทุนจึงควรพิจารณาเรื่องการบริหารความเสี่ยงและโอกาสในด้านดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน ผลประกอบการ ความสามารถในการคิดค้นนวัตกรรม การเติบโต ความโปร่งใส และประสิทธิภาพในการกำกับดูแลกิจการและได้รับการยอมรับจากผู้มีส่วนได้เสียต่าง ๆ โดยตรง การลงทุนที่ยั่งยืนจึงถือเป็นการลงทุนที่มองรอบด้านและเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน

กลยุทธ์การลงทุนอย่างยั่งยืน

การลงทุนอย่างยั่งยืนเองก็มีการพัฒนารูปแบบและกลยุทธ์ที่หลากหลายเช่นเดียวกับการลงทุนในแนวคิดอื่น ๆ เช่น การบริหารความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอด้วยการคัดกรองปัจจัยเชิงลบ (Negative Screening) อาทิ การไม่ลงทุนในธุรกิจที่อาจขัดต่อศีลธรรมจรรยาที่ดีของสังคม หรือการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอด้วยการคัดกรองปัจจัยเชิงบวก (Positive Screening) อาทิ การเลือกลงทุนในธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ส่งเสริมหลักศีลธรรมจรรยา หรือมีความโดดเด่นในการดำเนินงานด้าน ESG เป็นต้น ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนที่ยั่งยืนจึงไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว เพียงแต่เป็นการเลือกลงทุนในธุรกิจที่มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน มีกลยุทธ์ รูปแบบการดำเนินธุรกิจ และกระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ได้มาตรฐาน ทั้งในเชิงคุณภาพที่คำนึงถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล และเชิงปริมาณที่สะท้อนได้จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างยั่งยืนสมกับเป็น Sustainable Investment

ทำไมการลงทุนอย่างยั่งยืนจึงสำคัญ?

สำหรับการเลือกการลงทุนที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Investment นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ลงทุนและเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้บริษัทและองค์กรต่าง ๆ สร้างมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจเพื่อโลกที่ยั่งยืนและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ESG นี้เองเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่แสดงถึงความมั่นคงอย่างยั่งยืนของธุรกิจ อีกทั้งการลงทุนในโครงการที่มีการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าเนื่องจากมีการบริหารความเสี่ยงสำคัญของโครงการ และยังสามารถช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนให้มีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอมากขึ้น

ตัวอย่างเกณฑ์ ESG ที่ผู้ลงทุนควรพิจารณา

ปัจจัยด้าน ESG เป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ลงทุนควรใช้พิจารณาเมื่อทำการประเมินด้านความยั่งยืนและผลกระทบทางจริยธรรมของการลงทุนในธุรกิจหรือในบริษัทใดบริษัทหนึ่งเพื่อการลงทุนที่ยั่งยืน เพราะนั่นหมายถึงการที่บริษัทประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงการเติบโตของผลกำไร ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ได้แก่

  • Environment (การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม) คือ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท
  • Social (การจัดการด้านสังคม) คือ การบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม การดูแลความปลอดภัยของพนักงาน รวมถึงการมีสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนรอบด้าน
  • Governance (การจัดการด้านธรรมาภิบาล) คือ การมีนโยบายกำกับดูแลกิจการที่ดี ต่อต้านการทุจริต ดำเนินงานอย่างโปร่งใส และดูแลผลประโยชน์ผู้มีส่วนได้เสียด้วยความเป็นธรรม

การลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investment) เหมาะกับนักลงทุนกลุ่มใด

Sustainable Investment หรือการลงทุนที่ยั่งยืนไม่ได้เหมาะสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่หรือกลุ่ม Millennials เท่านั้น แต่ยังเหมาะกับนักลงทุนกลุ่มทั่วไปที่ต้องการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอด้วยการคัดกรองปัจจัยและผลกระทบในแง่ต่าง ๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว และลดผลกระทบเชิงลบที่อาจสร้างขึ้นต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

หุ้นยั่งยืนคืออะไร?

หุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) เป็นรายชื่อของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนตามแนวคิดการลงทุนที่ยั่งยืน โดยนำปัจจัยด้าน ESG มาประกอบการตัดสินใจลงทุน ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของบริษัท เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยหุ้นยั่งยืนใน THSI จะคัดเลือกจากบริษัทจดทะเบียนที่สมัครใจเข้าร่วมตอบแบบประเมินความยั่งยืน ซึ่งจัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการประเมินจะครอบคลุมคำถามในมิติ ESG ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการทบทวนแบบประเมินหุ้นยั่งยืนทุกปีให้สอดคล้องกับบริบทและแนวโน้มด้านความยั่งยืน (Sustainability Trends) ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับสากลและระดับประเทศ

การประเมินความยั่งยืนของหุ้น

หุ้นยั่งยืนหรือบริษัทที่อยู่ใน THSI ต้องมีผลคะแนนจากการตอบแบบประเมินความยั่งยืนในแต่ละด้านอย่างน้อย 50% หรือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) และต้องมีคุณสมบัติสอดคล้องกับเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ผลการประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล (Corporate Governance Reporting: CGR) ผลประกอบการด้านกำไรสุทธิและส่วนของผู้ถือหุ้น ผลการกำกับดูแลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของบริษัทจดทะเบียนและการไม่สร้างผลกระทบด้าน ESG การเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ถูกขึ้นเครื่องหมาย C เป็นต้น โดยมีคณะทำงานเพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืนที่ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และหน่วยงานในตลาดทุน เป็นผู้กลั่นกรองและคัดเลือกอย่างโปร่งใส

ทำไมควรลงทุนในหุ้นยั่งยืน?

ปัญหาสิ่งแวดล้อมและความไม่เท่าเทียมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจแบบไม่ยั่งยืนสามารถสร้างปัญหาและผลเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว แต่การบูรณาการปัจจัยด้าน ESG ทั้งทางตรงและทางอ้อมเข้าไปในกระบวนการดำเนินงานจะช่วยให้เกิดความยั่งยืนทางธุรกิจอย่างแท้จริง การทำเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจ แต่ยังเพิ่มโอกาสที่จะสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย