โรงไฟฟ้าชีวมวล โคลเวอร์ พิษณุโลก (CPL)
จังหวัดพิษณุโลก
![](https://www.cloverpower.co.th/storage/content/our-business/power-plant-poerator/project/project-02.jpg)
โรงไฟฟ้าชีวมวล โคลเวอร์ พิษณุโลก (CPL)
บริษัท โคลเวอร์ พิษณุโลก จำกัด
Clover Phitsanulok Company Limited
อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
บริษัทฯ หรือ CV
4.90 เมกะวัตต์
ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว
ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
4.50 เมกะวัตต์
ตามสัดส่วนการถือหุ้น
4.50 เมกะวัตต์
FiT + FiT Premium
23 ธันวาคม 2554
0545554000334
9 สิงหาคม 2561
โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล CPL เป็นโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน VSPP ที่ใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตแบบเผาไหม้โดยตรง (Direct Combustion) โดยการนำเศษวัสดุเหลือใช้ที่เป็นชีวมวลบริเวณรอบพื้นที่ ได้แก่ เศษไม้สับ ใบอ้อย แกลบ ขี้เลื่อยไม้ และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอื่น ๆ มาเป็นเชื้อเพลิงให้กับกังหันไอน้ำแบบควบแน่นในการขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเข้าระบบภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. โดยมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งและปริมาณพลังงานไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญา 4.9 และ 4.5 เมกะวัตต์ตามลำดับ สำหรับระบบการรับซื้อไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าชีวมวล CPL จะอยู่ในรูปแบบ FiT กลุ่มพลังงานชีวภาพ ซึ่งเป็นประเภทเทคโนโลยีที่ได้รับการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff พิเศษ (“FiT Premium”) เพิ่มเติมจากอัตราการรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ FiT ปกติภายใต้ระยะเวลาเสนอขายตามสัญญา 20 ปี
เทคโนโลยีที่ใช้ผลิตไฟฟ้า
โรงไฟฟ้าชีวมวล CPL จังหวัดพิษณุโลก เป็นโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบเผาไหม้โดยตรง (Direct Combustion) จากเศษวัสดุชีวมวลเหลือใช้ ซึ่งเป็นการนำชีวมวลมาเผาเป็นพลังงานความร้อนภายในหม้อน้ำ โดยค่าความร้อนที่ได้จะขึ้นอยู่กับค่าความร้อนของชีวมวลชนิดนั้น ๆ ทั้งนี้ ความร้อนที่ได้จากการเผาสามารถนำไปใช้ในการผลิตไอน้ำที่มีอุณหภูมิและความดันสูง และไอน้ำนี้จะถูกนำไปขับกังหันไอน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าต่อไป
โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลอื่น ๆ ของ บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
นอกจากโรงไฟฟ้าชีวมวล CPL จังหวัดพิษณุโลกแล้ว บริษัทฯ ยังประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อขายไฟฟ้า โดยมุ่งเน้นพัฒนาและกระจายการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีจากพลังงานหมุนเวียนหลากหลายประเภทโดย ณ เดือนมิถุนายน 2565 กลุ่มบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 23.66 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวน 2 โครงการ โครงการโรงไฟฟ้าขยะ จำนวน 1 โครงการ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จำนวน 1 โครงการ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้างอีกหลายโครงการ
โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
- โครงการโรงคัดแยกและแปรรูปขยะมูลฝอยเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะ (RDF) โคลเวอร์ รีไซเคิ้ล อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร
- โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (ชีวมวล) ซีวี กรีน ลำปาง อ.เกาะคา จ.ลำปาง
- โครงการโรงไฟฟ้าชุนชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (ชีวมวล) ซีวี กรีน ศรีบุญเรือง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู
- โรงไฟฟ้าชุนชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (ชีวมวล) ซีวี กรีน เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร
ข้อดีของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
- ต้นทุนเชื้อเพลิงที่นำมาใช้ในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมีราคาค่อนข้างถูก ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำ
- หากเทียบกับการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนกับโรงงานไฟฟ้าประเภทอื่น การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจะมีต้นทุนในการก่อสร้างที่ต่ำกว่า
- การมีโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเป็นการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของไทยให้เจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถใช้ผลผลิตส่วนที่เหลือจากการเกษตรมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า ลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงต่างประเทศ
- ช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นได้ รวมถึงยังมีการนำเศษขยะหรือของเหลือใช้นี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถกระจายรายได้ไปสู่ประชากรอย่างดีโดยไม่ทำลายวิถีชีวิตที่ยั่งยืนของชุมชน
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดผลกระทบ มลภาวะ และมลพิษที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมอันเกิดจากกระบวนการแปรรูปเชื้อเพลิงฟอสซิล และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
พลังงานหมุนเวียนกับประเทศไทยในปัจจุบัน
พลังงานหลักที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้มาจากแหล่งพลังงานที่ใช้แล้วหมดไปแทบทั้งสิ้น อีกทั้งความต้องการในการใช้พลังงาน นับวันก็ยิ่งมีมากขึ้น แต่ปริมาณของพลังงานเหล่านั้นกลับมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งสามารถหมดไปได้ไม่วันก็วันหนึ่งในอนาคต ดังนั้น พลังงานหมุนเวียนจึงมีความสำคัญในแง่ของการเป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่จะช่วยรองรับความต้องการและความจำเป็นในการใช้งานที่จะเข้ามาทดแทนพลังงานจากเชื้อเพลิงในรูปแบบเก่า อีกทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นและบรรเทาผลกระทบจากปัญหามลภาวะต่าง ๆ อาทิ ภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก อันเกิดจากการใช้พลังงานในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของทุกชีวิตบนโลกเป็นวงกว้าง พลังงานหมุนเวียนจึงถือเป็นพลังงานแห่งยุคอนาคตที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศให้หมุนต่อไปได้อย่างยั่งยืน
ย้อนกลับ